วัตถุประสงค์ : การนำคำถามที่เกี่ยวกับพฤติกรรมสมองมาใช้ในการเพื่อพัฒนาทักษะทางภาษา การมีส่วนร่วมที่ก่อให้เกิดความรู้สึกที่ดีต่อตนเองและผู้อื่น
กิจกรรม :
- นักเรียนนั่งจับมือเป็นวงกลม ส่งความปรารถนาดีต่อกันและกัน ในวันที่ดี ในโอกาสที่ดี โดยครูเป็นคนพูดเพื่อให้นักเรียนเกิดความรู้สึกที่ดีต่อกันและกัน
- ครูอ่านเรื่องให้นักเรียนฟัง จากนั้นครูมีกระดาษ ปากกา และฉลากคำถามของพฤติกรรมสมอง ให้นักเรียนคนละ 1 อัน ก่อนที่เราจะรับสิ่งต่างๆ เราจะไหว้ขอบคุณอย่างนอบน้อม ตัวอย่างคำถาม ตัวละครมีใครบ้าง ชอบตัวละครตัวไหนเพราะเหตุใด อยากเปลี่ยนตอนจบให้เป็นอย่างไร อยากเปลี่ยนเนื้อเรื่องในตอนใด ลำดับเหตุการณ์ของเรื่องที่เกิดขึ้น ตั้งชื่อเรื่องที่ฟัง เรื่องที่ฟังให้ข้อคิดอย่างไร อุปนิสัยของตัวละครแต่ละตัวเป็นอย่างไร เป็นต้น
- ให้นักเรียนแต่ละคนตอบคำถามที่ได้รับที่ละคน
- ครูและนักเรียนขอบคุณกันและกันกับโอกาสที่ได้ทำกิจกรรมร่วมกัน
สิ่งที่สังเกตเห็น
- นักเรียนแต่ละคนมีความคิดที่แตกต่างและหลากหลาย
- รู้จักนักเรียนที่อ่านและเขียนไม่คล่อง
- เห็นพัฒนาการทางภาษาที่งดงามของเด็กๆ
- รู้จักนักเรียนแต่ละคนถึงความคิดและการมองสิ่งๆ ต่างที่ได้รับฟัง
- เกิดความสัมพันธ์ระดับราบระหว่างครูและนักเรียน
- เกิดบรรยากาศที่ผ่อนคลาย
ขอบคุณพี่ ป.6 และคุณครูประจำชั้นที่ทำให้เกิดโอกาสที่ดีร่วมกัน
ครูต๋อย
จิตศึกษานอกกะลา ปัญญาภายใน
เพื่อพัฒนาความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ ส่งเสริมการพัฒนาความฉลาดในด้านจิตวิญญาณ ความฉลาดด้านอารมณ์ ให้เห็นคุณค่าของสรรพสิ่ง การน้อมนำสิ่งที่ดีงามเข้าไปสู่จิตใต้สำนึก
วันอังคารที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2555
วันศุกร์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2555
โยคะ(yoga) ป.6
"โยคะ เป็นแนวทางการฝึกการควบคุมตัวเองทางด้านร่างกายและจิตใจ เป็นวิธีหนึ่งที่จะให้ผู้ฝึกสัมผัสถึงความสุข มีสุขภาพแข็งแรงบุคลิกภาพที่ดี ควบคุมอารมณ์ได้ดีประสานกับความเข้าใจในธรรมชาติ"
(วิเชียร ไชยบัง ; โรงเรียนนอกกะลา 2552) — โยคะ(yoga) ป.6
กิจกรรมจิตศึกษา การฝึกโยคะ
- หายใจแบบโยคะให้ถูกต้อง : หายใจเข้า - ท้องพอง, หายใจออก - ท้องแฟบ
• สูดอากาศเข้าให้พอดีกับท่าฝึก เพื่อให้ได้ออกซิเจนมากพอ
• ปล่อยลมหายใจออกให้สุด เพื่อขับอากาศเสียออกจากร่างกาย และลดความตึงเครียด ของกล้ามเนื้อ
• หายใจเข้า - ออก ให้สอดคล้องเป็นจังหวะกับท่าฝึกแต่ละท่า
- ฝึกท่าแต่ละท่า ช้าๆ เป็นจังหวะที่ลงตัว ควบคุมการเคลื่อนไหวของร่างกาย ตามข้อจำกัดธรรมชาติร่างกายของแต่ละบุคคล อย่าฝืนเกินไป เช่น ยืดตัวมากเกินไป เกร็งเกินไป ตึงมากไป บิดมากเกินไป
- การกำหนดจิตให้เป็นหนึ่งเดียวกับการฝึกโดยไม่วอกแวกการฝึกโยคะ
- หายใจแบบโยคะให้ถูกต้อง : หายใจเข้า - ท้องพอง, หายใจออก - ท้องแฟบ
• สูดอากาศเข้าให้พอดีกับท่าฝึก เพื่อให้ได้ออกซิเจนมากพอ
• ปล่อยลมหายใจออกกิจกรรมจิตศึกกิจกรรมจิตศึกการฝึกโยคะ
- หายใจแบบโยคะให้ถูกต้อง : หายใจเข้า - ท้องพอง, หายใจออก - ท้องแฟบ
• สูดอากาศเข้าให้พอดีกับท่าฝึก เพื่อให้ได้ออกซิเจนมากพอ
• ปล่อยลมหายใจออกให้สุด เพื่อขับอากาศเสียออกจากร่างกาย และลดความตึงเครียด ของกล้ามเนื้อ
• หายใจเข้า - ออก ให้สอดคล้องเป็นจังหวะกับท่าฝึกแต่ละท่า
- ฝึกท่าแต่ละท่า ช้าๆ เป็นจังหวะที่ลงตัว ควบคุมการเคลื่อนไหวของร่างกาย ตามข้อจำกัดธรรมชาติร่างกายของแต่ละบุคคล อย่าฝืนเกินไป เช่น ยืดตัวมากเกินไป เกร็งเกินไป ตึงมากไป บิดมากเกินไป
- การกำหนดจิตให้เป็นหนึ่งเดียวกับการฝึกโดยไม่วอกแวก
(วิเชียร ไชยบัง ; โรงเรียนนอกกะลา 2552) — โยคะ(yoga) ป.6
กิจกรรมจิตศึกษา การฝึกโยคะ
- หายใจแบบโยคะให้ถูกต้อง : หายใจเข้า - ท้องพอง, หายใจออก - ท้องแฟบ
• สูดอากาศเข้าให้พอดีกับท่าฝึก เพื่อให้ได้ออกซิเจนมากพอ
• ปล่อยลมหายใจออกให้สุด เพื่อขับอากาศเสียออกจากร่างกาย และลดความตึงเครียด ของกล้ามเนื้อ
• หายใจเข้า - ออก ให้สอดคล้องเป็นจังหวะกับท่าฝึกแต่ละท่า
- ฝึกท่าแต่ละท่า ช้าๆ เป็นจังหวะที่ลงตัว ควบคุมการเคลื่อนไหวของร่างกาย ตามข้อจำกัดธรรมชาติร่างกายของแต่ละบุคคล อย่าฝืนเกินไป เช่น ยืดตัวมากเกินไป เกร็งเกินไป ตึงมากไป บิดมากเกินไป
- การกำหนดจิตให้เป็นหนึ่งเดียวกับการฝึกโดยไม่วอกแวกการฝึกโยคะ
- หายใจแบบโยคะให้ถูกต้อง : หายใจเข้า - ท้องพอง, หายใจออก - ท้องแฟบ
• สูดอากาศเข้าให้พอดีกับท่าฝึก เพื่อให้ได้ออกซิเจนมากพอ
• ปล่อยลมหายใจออกกิจกรรมจิตศึกกิจกรรมจิตศึกการฝึกโยคะ
- หายใจแบบโยคะให้ถูกต้อง : หายใจเข้า - ท้องพอง, หายใจออก - ท้องแฟบ
• สูดอากาศเข้าให้พอดีกับท่าฝึก เพื่อให้ได้ออกซิเจนมากพอ
• ปล่อยลมหายใจออกให้สุด เพื่อขับอากาศเสียออกจากร่างกาย และลดความตึงเครียด ของกล้ามเนื้อ
• หายใจเข้า - ออก ให้สอดคล้องเป็นจังหวะกับท่าฝึกแต่ละท่า
- ฝึกท่าแต่ละท่า ช้าๆ เป็นจังหวะที่ลงตัว ควบคุมการเคลื่อนไหวของร่างกาย ตามข้อจำกัดธรรมชาติร่างกายของแต่ละบุคคล อย่าฝืนเกินไป เช่น ยืดตัวมากเกินไป เกร็งเกินไป ตึงมากไป บิดมากเกินไป
- การกำหนดจิตให้เป็นหนึ่งเดียวกับการฝึกโดยไม่วอกแวก
ท่าต่างๆ ของการฝึกทำโยคะ
ไหว้พระอาทิตย์
เก้าอี้
เครื่องบิน
เต่า
ผีเสื้อ
ผีเสื้อ ดูดน้ำหวาน
จระเข้
ยิงคันธนู
วันพฤหัสบดีที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2555
จิตศึกษามัธยม 2 : ตอบคำถาม..ถอดความรู้สึก
กิจกรรมจิตศึกษาพี่มัธยม 2 คุณครูมีคำถามให้เด็กทุกคนได้เลือก(จับฉลาก)
เมื่อได้คำถามแล้วจะตอบเองหรือสามารถโยนคำถามให้ใครก็ได้ที่อยู่ในวงช่วยตอบ
ถ้าใครเคยมีเพื่อนโยนให้ตอบคำถามแล้วเพื่อนคนอื่นจะโยนให้ตอบอีกไม่ได้ต้อง ให้คนที่ไม่เคยได้ตอบ
สรุปคือ ทุกคนจะได้ตอบไม่เกินคนละสองคำถามคือเราตอบเองและเพื่อนอาจจะให้ช่วยตอบ กิจกรรมนี้ทำให้เห็นความคิดที่หลากหลายของเด็กๆ ที่กำลังเป็นวัยรุ่นที่มีต่อสิ่งต่างๆ เห็นความใสในคำตอบ และได้รับฟังประสบการณ์ เรื่องราวของกันและกัน — จิตศึกษามัธยม 2
เก็บภาพบรรยากาศ เล่าเรื่องราวโรงเรียนลำปลายมาศพัฒนา ผ่าน Facebook : Pantippa Thongmee(ครูต๋อย)
เมื่อได้คำถามแล้วจะตอบเองหรือสามารถโยนคำถามให้ใครก็ได้ที่อยู่ในวงช่วยตอบ
ถ้าใครเคยมีเพื่อนโยนให้ตอบคำถามแล้วเพื่อนคนอื่นจะโยนให้ตอบอีกไม่ได้ต้อง ให้คนที่ไม่เคยได้ตอบ
สรุปคือ ทุกคนจะได้ตอบไม่เกินคนละสองคำถามคือเราตอบเองและเพื่อนอาจจะให้ช่วยตอบ กิจกรรมนี้ทำให้เห็นความคิดที่หลากหลายของเด็กๆ ที่กำลังเป็นวัยรุ่นที่มีต่อสิ่งต่างๆ เห็นความใสในคำตอบ และได้รับฟังประสบการณ์ เรื่องราวของกันและกัน — จิตศึกษามัธยม 2
วันอังคารที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2555
จิตศึกษาพี่ ป.6 : Brian Gym + เล่าเรื่องผ่านบัตรคำ
จากนั้นแจกบัตรคำให้คนละ 1 แผ่น ก่อนรับทุกคนไหว้ขอบคุณอย่างนอบน้อม เมื่อได้ครบทุกคนก็อ่านให้เพื่อนฟังทีละคนว่าเราได้คำว่าอะไร ต่อมาครูโก็ให้โจทย์ว่า ให้นักเรียนถ่ายทอดเรื่องราวต่างๆ ผ่านคำที่ได้ให้เป็นเรื่องราวเดียวกัน
และจบที่คนสุดท้าย สิ้นสุดกิจกรรมครูใช้คำถามกระตุ้นคิด : จากกิจกรรมที่ทำนักเรียนได้เรียนรู้เกี่ยวกับอะไรบ้าง ? นักเรียนเห็นอะไรจากกิจกรรมที่ได้ทำ ? ใครคิดต่าง ? ใครเห็นต่าง ? — จิตศึกษาพี่ ป.6
เก็บภาพบรรยากาศ
เล่าเรื่องราวโรงเรียนลำปลายมาศพัฒนา
ผ่าน Facebook : Pantippa Thongmee(ครูต๋อย)
และจบที่คนสุดท้าย สิ้นสุดกิจกรรมครูใช้คำถามกระตุ้นคิด : จากกิจกรรมที่ทำนักเรียนได้เรียนรู้เกี่ยวกับอะไรบ้าง ? นักเรียนเห็นอะไรจากกิจกรรมที่ได้ทำ ? ใครคิดต่าง ? ใครเห็นต่าง ? — จิตศึกษาพี่ ป.6
เก็บภาพบรรยากาศ
เล่าเรื่องราวโรงเรียนลำปลายมาศพัฒนา
ผ่าน Facebook : Pantippa Thongmee(ครูต๋อย)
วันจันทร์ที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2555
จิตศึกษาพี่อนุบาล 2 : เก็บพี่ดอกไม้นำมาเรียงร้อยให้เป็นมาลัย
เก็บภาพบรรยากาศ เล่าเรื่องราวโรงเรียนลำปลายมาศพัฒนา ผ่าน Facebook : Pantippa Thongmee(ครูต๋อย)
กิจกรรมจิตศึกษาพี่อนุบาล 2 วันศุกร์ที่ 27 ก.ค 55
เด็กๆ ช่วยกันเก็บพี่ดอกไม้นำมาเรียงร้อยให้เป็นมาลัยที่สวยงามแล้วนำไปจัดแจกัน ของห้อง ทุกคนต่างจดจ่อตั้งใจกับการทำกิจกรรมมาก ทุกคนต่างใช้สติและความระมัดระวังในการร้อยเพราะพี่ปลายเข็มแหลมอาจจะทิ่ม มือหรือโดนเพื่อนๆ ได้
กิจกรรมจิตศึกษา
- เพื่อพัฒนาความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์
ส่งเสริมการพัฒนาความฉลาดในด้านจิตวิญญาณ ความฉลาดด้านอารมณ์
ให้เห็นคุณค่าของสรรพสิ่ง การน้อมนำสิ่งที่ดีงามเข้าไปสู่จิตใต้สำนึก
- การเตรียมความพร้อมของนักเรียน ให้อยู่ในภาวะคลื่นสมองต่ำ และมีความพร้อมในการเรียน
- การเตรียมความพร้อมของนักเรียน ให้อยู่ในภาวะคลื่นสมองต่ำ และมีความพร้อมในการเรียน
กิจกรรมจิตศึกษาพี่อนุบาล 2 วันศุกร์ที่ 27 ก.ค 55
เด็กๆ ช่วยกันเก็บพี่ดอกไม้นำมาเรียงร้อยให้เป็นมาลัยที่สวยงามแล้วนำไปจัดแจกัน ของห้อง ทุกคนต่างจดจ่อตั้งใจกับการทำกิจกรรมมาก ทุกคนต่างใช้สติและความระมัดระวังในการร้อยเพราะพี่ปลายเข็มแหลมอาจจะทิ่ม มือหรือโดนเพื่อนๆ ได้
อันมือน้อยร้อยเรียงบุปผา สายตาที่จับจ่องที่มองเห็น
ช่วยขัดเกลาจิตใจเราให้เย็น เพื่อให้เห็นตวามงดงามที่ตามวัย
ช่วยขัดเกลาจิตใจเราให้เย็น เพื่อให้เห็นตวามงดงามที่ตามวัย
ร้อยเรียงทุกความตั้งใจ ทุกความงดงามตามวัยของทุกๆ คน
วันอาทิตย์ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555
Top Secret วัยรุ่นพันล้าน
Quarter 4 นี้ พี่ๆ ป.5 โรงเรียนนอกกะลาแห่งนี้
เรียนวิชาโครงงานแบบบูรณาการ หัวข้อเกี่ยวกับ "การรู้เท่าทันสื่อ"
ผมเปิดคลิปที่เป็นภาพยนต์วันรุ่นพันล้านดูกันจนจบในก่อนวันทำกิจกรรมจิตศึกษา
พอมาถึงวันถัดมายามเช้า เด็กๆ ยังมีความรู้สึกอยากถ่ายทอดเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้ดีอยู่ ผมสอบถามนักเรียนแต่ละคนว่า "พี่ๆ ป.5 เห็นอะไรบ้างจากภาพยนต์เรื่อง Top Secret วัยรุ่นพันล้าน ?"
หลังจากทุกคนได้บอกความรู้สึกเสร็จลง ผมแจกสมุดงานเขียนให้กับลูกศิษย์ทุกคน
ทุกคนได้เขียนถ่ายทอดเรื่องราว ในความรู้สึกของแต่ละคนลงในสมุด ผมอ่านดูแล้วทุกคนมีฝีมือในการเขียนถ่ายทอดงานออกมาได้อย่างน่าประทับใจ
ผมถ่ายภาพชิ้นงานนักเรียนมาลง Blog ให้เชยชมกัน 3 ชิ้นงานนะครับ..
นำแสดงโดย พีช พชร จิราธิวัฒน์ มุกไหม-วลันลักษณ์ คุ้มสุวรรณ และ เปี๊ยก โปสเตอร์ (สมบูรณ์สุข นิยมศิริ) กำกับการแสดงโดย ย้ง-ทรงยศ สุขมากอนันต์
เรื่องย่อ อายุ 16 ต๊อบมีเงินจากการเล่นเกมส์เดือนละ 400,000 บาท
อายุ 17 ยอมติด F แลกกับเงินค่าขายเกาลัดแค่ 2,000 บาท
อายุ 18 บ้านล้มละลายเป็นหนี้ 40 ล้าน อายุ 19 นำสาหร่ายเถ้าแก่น้อยเข้าเซเว่น 3,000 สาขา
ทุกวันนี้ต๊อบ อายุ 26 ปีเป็นเจ้าของแบรนด์สาหร่ายอันดับหนึ่งของเมืองไทย
เจ้าของมาร์เก็ตแชร์ 85% ของทั้งตลาด หรือเท่ากับยอดขายเหยียบ 1,000 ล้านบาทต่อปี
มีลูกน้องในบริษัททั้งสิ้น 2,000 คน
เรียนวิชาโครงงานแบบบูรณาการ หัวข้อเกี่ยวกับ "การรู้เท่าทันสื่อ"
ผมเปิดคลิปที่เป็นภาพยนต์วันรุ่นพันล้านดูกันจนจบในก่อนวันทำกิจกรรมจิตศึกษา
พอมาถึงวันถัดมายามเช้า เด็กๆ ยังมีความรู้สึกอยากถ่ายทอดเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้ดีอยู่ ผมสอบถามนักเรียนแต่ละคนว่า "พี่ๆ ป.5 เห็นอะไรบ้างจากภาพยนต์เรื่อง Top Secret วัยรุ่นพันล้าน ?"
หลังจากทุกคนได้บอกความรู้สึกเสร็จลง ผมแจกสมุดงานเขียนให้กับลูกศิษย์ทุกคน
ทุกคนได้เขียนถ่ายทอดเรื่องราว ในความรู้สึกของแต่ละคนลงในสมุด ผมอ่านดูแล้วทุกคนมีฝีมือในการเขียนถ่ายทอดงานออกมาได้อย่างน่าประทับใจ
ผมถ่ายภาพชิ้นงานนักเรียนมาลง Blog ให้เชยชมกัน 3 ชิ้นงานนะครับ..
"Top Secret วัยรุ่นพันล้าน"
ภาพยนตร์แรงบันดาลใจจากชีวิตของเจ้าของธุรกิจเถ้าแก่น้อย
ที่ความลับของเขาอาจเปลี่ยนชีวิตคุณ 20 ตุลานี้ในโรงภาพยนตร์นำแสดงโดย พีช พชร จิราธิวัฒน์ มุกไหม-วลันลักษณ์ คุ้มสุวรรณ และ เปี๊ยก โปสเตอร์ (สมบูรณ์สุข นิยมศิริ) กำกับการแสดงโดย ย้ง-ทรงยศ สุขมากอนันต์
เรื่องย่อ อายุ 16 ต๊อบมีเงินจากการเล่นเกมส์เดือนละ 400,000 บาท
อายุ 17 ยอมติด F แลกกับเงินค่าขายเกาลัดแค่ 2,000 บาท
อายุ 18 บ้านล้มละลายเป็นหนี้ 40 ล้าน อายุ 19 นำสาหร่ายเถ้าแก่น้อยเข้าเซเว่น 3,000 สาขา
ทุกวันนี้ต๊อบ อายุ 26 ปีเป็นเจ้าของแบรนด์สาหร่ายอันดับหนึ่งของเมืองไทย
เจ้าของมาร์เก็ตแชร์ 85% ของทั้งตลาด หรือเท่ากับยอดขายเหยียบ 1,000 ล้านบาทต่อปี
มีลูกน้องในบริษัททั้งสิ้น 2,000 คน
ตัวอย่างชิ้นงานที่เด็กๆ ป.5 สรุปไว้..
วันอังคารที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2554
ครูเล่านิทานสู่นักเรียนฟัง
เช้าตรู่วันนั้น ครูเริ่มกิจกรรมจิตศึกษาโดยให้นักเรียนทุกคนนั่งเป็นวงกลม
กิจกรรม..
ครูเปิดเพลงคลื่นสมองต่ำ ให้นักเรียนทุกคนทำสมาธิ 2-3 นาที ก่อนเริ่มกิจกรรม ระหว่างที่ทุกคนทำสมาธิครูก็จะชื่นชมคนที่ทำได้ดี ด้วยคำพูด Empower เช่น พี่...เยี่ยมมากครับ, พี่...เก่งมาครับ, พี่...น่ารักมากครับ, พี่...ยอดยเยี่ยมมากเลยครับวันนี้ พี่..จะเป็นเด็กที่ดี เป็นเด็กนักเรียนที่น่ารักของคุณครูและเพื่อนๆ คุณครูเชื่อเช่นนั้นครับ ขอบคุณพี่.. อีกครั้งครับ เป็นต้น
ก่อนที่ทุกคนจะลืมตาขึ้นมา เพื่อเริ่มกิจกรรมจิตศึกษา ครูจะชื่นชมนักเรียนทุกคนและขอบคุณนักเรียนทุกคน แล้วให้นักเรียนทุกคนลืมตา
คุณครูเตรียมหนังสือนิทานมาเล่าให้นักเรียนรับฟัง
และก็มีเด็กผู้ชายตัวเล็กๆคนนึงชอบเข้ามาอยู่ใกล้ๆและเล่นรอบๆต้นไม้นี้ทุกๆวัน
เขาปีนขึ้นไปบนยอดของต้นไม้ และก็กินผลแอปเปิล และก็นอนหลับไปภายใต้ร่มเงาของต้นแอปเปิล
เขารักต้นไม้ และต้นไม้ก็รักเขา
เวลาผ่านไป เด็กน้อยโตขึ้น และเขาไม่มาวิ่งเล่นรอบๆต้นไม้ทุกวันอีกแล้ว
วันนึงเด็กน้อยกลับมาหาต้นไม้ เด็กน้อยดูเศร้า
"มาหาฉันและมาเล่นกับฉันเหรอ" ต้นไม้ถาม
"ฉันไม่ใช่เด็กเล็กๆ แล้วนะ ฉันไม่อยากเล่นรอบๆ ต้นไม้อีกแล้ว ฉันต้องการของเล่น ฉันอยากได้เงินไปซื้อของเล่น" เด็กน้อยตอบ
"แต่ฉันไม่มีเงินจะให้ ....เก็บลูกแอปเปิลของฉันไปขายสิ เพื่อเอาเงินไปซื้อของเล่น " ต้นไม้ตอบ
เด็กน้อยตื่นเต้นมาก เขาเก็บลูกแอปเปิลไปหมดและจากไปอย่างมีความสุข หลังจากเขาเก็บแอปเปิลไปหมดแล้ว เขาไม่กลับมาหาต้นไม้อีกเลย
ต้นไม้ดูเศร้า...
วันหนึ่งเด็กน้อยกลับมา เขาดูโตขึ้น ต้นไม้รู้สึกตื่นเต้นมาก
"มาหาฉันและมาเล่นกับฉันเหรอ" ต้นไม้ถาม
"ฉันไม่มีเวลามาเล่นหรอก ฉันมีครอบครัวแล้ว ฉันต้องทำงานเพื่อครอบครัวของฉันเอง เราต้องการบ้าน ช่วยฉันได้ไหม"
"แต่ฉันไม่มีบ้าน... ตัดกิ่งก้านของฉันไปสิ ....เอาไปสร้างบ้าน"
ดังนั้นเด็กน้อยตัดกิ่งก้านทั้งหมดของต้นไม้ไปและจากไปอย่างมีความสุข
อีกครั้งที่ต้นไม้ถูกทิ้งให้เดียวดายและเศร้า...
วันหนึ่งในฤดูร้อนเด็กน้อยกลับมา ต้นไม้ดีใจมาก
"มาหาฉันและมาเล่นกับฉันเหรอ" ต้นไม้ถาม
"เปล่าฉันรู้สึกผิดหวังกับชีวิตและเริ่มแก่ขึ้น ฉันอยากแล่นเรือไปพักผ่อนไกลๆ ให้เรือฉันได้ไหม"
"ใช้ลำต้นของฉันได้เอาไปสร้างเรือ เพื่อหนูจะได้เล่นเรือไปและมีความสุข" ต้นไม้ตอบ
ดังนั้นเด็กน้อยตัดลำต้นของต้นไม้ไปสร้างเรือ เขาล่องเรือไปและไม่เคยกลับมาอีกเลย
หลายปีผ่านไป ในที่สุดเด็กน้อยกลับมา
"ฉันเสียใจ เด็กน้อย ฉันไม่เหลืออะไรจะให้อีกแล้ว ไม่มีผลแอปเปิลให้.."
"ฉันไม่มีฟันจะกินแล้ว"
"ฉันไม่มีลำต้นให้ปีนอีกแล้ว"
"ฉันปีนไม่ไหวแล้ว ฉันแก่แล้ว" เด็กน้อยตอบ
"ฉันไม่มีอะไรเหลือให้อีกแล้ว สิ่งเดียวที่เหลือ มีเพียงรากที่กำลังจะตาย"
"ตอนนี้ฉันไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว แค่อยากได้ที่พักพิง ฉันเหนื่อยมาหลายปีแล้ว"
"รากของต้นไม้แก่ๆ จะเป็นที่พักพิงของหนูได้.. มาสิ! นั่งลงข้างๆ ฉัน ...หลับให้สบาย....."
เด็กน้อยนั่งลงข้างๆ ต้นไม้ดีใจ ยิ้ม...และน้ำตาไหล...
พอครูเล่าจบ ครูให้นักเรียนแสดงความรู้สึกหลังจากการฟัง...
คุณครูขอบคุณนักเรียนทุกคน หลังจากที่นักเรียนคนนั้นแสดงความรู้สึกออกมา.
กิจกรรม..
ครูเปิดเพลงคลื่นสมองต่ำ ให้นักเรียนทุกคนทำสมาธิ 2-3 นาที ก่อนเริ่มกิจกรรม ระหว่างที่ทุกคนทำสมาธิครูก็จะชื่นชมคนที่ทำได้ดี ด้วยคำพูด Empower เช่น พี่...เยี่ยมมากครับ, พี่...เก่งมาครับ, พี่...น่ารักมากครับ, พี่...ยอดยเยี่ยมมากเลยครับวันนี้ พี่..จะเป็นเด็กที่ดี เป็นเด็กนักเรียนที่น่ารักของคุณครูและเพื่อนๆ คุณครูเชื่อเช่นนั้นครับ ขอบคุณพี่.. อีกครั้งครับ เป็นต้น
ก่อนที่ทุกคนจะลืมตาขึ้นมา เพื่อเริ่มกิจกรรมจิตศึกษา ครูจะชื่นชมนักเรียนทุกคนและขอบคุณนักเรียนทุกคน แล้วให้นักเรียนทุกคนลืมตา
คุณครูเตรียมหนังสือนิทานมาเล่าให้นักเรียนรับฟัง
เรื่องมีอยู่ว่า..
นานมาแล้วมีต้นแอปเปิลใหญ่อยู่ต้นหนึ่ง และก็มีเด็กผู้ชายตัวเล็กๆคนนึงชอบเข้ามาอยู่ใกล้ๆและเล่นรอบๆต้นไม้นี้ทุกๆวัน
เขาปีนขึ้นไปบนยอดของต้นไม้ และก็กินผลแอปเปิล และก็นอนหลับไปภายใต้ร่มเงาของต้นแอปเปิล
เขารักต้นไม้ และต้นไม้ก็รักเขา
เวลาผ่านไป เด็กน้อยโตขึ้น และเขาไม่มาวิ่งเล่นรอบๆต้นไม้ทุกวันอีกแล้ว
วันนึงเด็กน้อยกลับมาหาต้นไม้ เด็กน้อยดูเศร้า
"มาหาฉันและมาเล่นกับฉันเหรอ" ต้นไม้ถาม
"ฉันไม่ใช่เด็กเล็กๆ แล้วนะ ฉันไม่อยากเล่นรอบๆ ต้นไม้อีกแล้ว ฉันต้องการของเล่น ฉันอยากได้เงินไปซื้อของเล่น" เด็กน้อยตอบ
"แต่ฉันไม่มีเงินจะให้ ....เก็บลูกแอปเปิลของฉันไปขายสิ เพื่อเอาเงินไปซื้อของเล่น " ต้นไม้ตอบ
เด็กน้อยตื่นเต้นมาก เขาเก็บลูกแอปเปิลไปหมดและจากไปอย่างมีความสุข หลังจากเขาเก็บแอปเปิลไปหมดแล้ว เขาไม่กลับมาหาต้นไม้อีกเลย
ต้นไม้ดูเศร้า...
วันหนึ่งเด็กน้อยกลับมา เขาดูโตขึ้น ต้นไม้รู้สึกตื่นเต้นมาก
"มาหาฉันและมาเล่นกับฉันเหรอ" ต้นไม้ถาม
"ฉันไม่มีเวลามาเล่นหรอก ฉันมีครอบครัวแล้ว ฉันต้องทำงานเพื่อครอบครัวของฉันเอง เราต้องการบ้าน ช่วยฉันได้ไหม"
"แต่ฉันไม่มีบ้าน... ตัดกิ่งก้านของฉันไปสิ ....เอาไปสร้างบ้าน"
ดังนั้นเด็กน้อยตัดกิ่งก้านทั้งหมดของต้นไม้ไปและจากไปอย่างมีความสุข
อีกครั้งที่ต้นไม้ถูกทิ้งให้เดียวดายและเศร้า...
วันหนึ่งในฤดูร้อนเด็กน้อยกลับมา ต้นไม้ดีใจมาก
"มาหาฉันและมาเล่นกับฉันเหรอ" ต้นไม้ถาม
"เปล่าฉันรู้สึกผิดหวังกับชีวิตและเริ่มแก่ขึ้น ฉันอยากแล่นเรือไปพักผ่อนไกลๆ ให้เรือฉันได้ไหม"
"ใช้ลำต้นของฉันได้เอาไปสร้างเรือ เพื่อหนูจะได้เล่นเรือไปและมีความสุข" ต้นไม้ตอบ
ดังนั้นเด็กน้อยตัดลำต้นของต้นไม้ไปสร้างเรือ เขาล่องเรือไปและไม่เคยกลับมาอีกเลย
หลายปีผ่านไป ในที่สุดเด็กน้อยกลับมา
"ฉันเสียใจ เด็กน้อย ฉันไม่เหลืออะไรจะให้อีกแล้ว ไม่มีผลแอปเปิลให้.."
"ฉันไม่มีฟันจะกินแล้ว"
"ฉันไม่มีลำต้นให้ปีนอีกแล้ว"
"ฉันปีนไม่ไหวแล้ว ฉันแก่แล้ว" เด็กน้อยตอบ
"ฉันไม่มีอะไรเหลือให้อีกแล้ว สิ่งเดียวที่เหลือ มีเพียงรากที่กำลังจะตาย"
"ตอนนี้ฉันไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว แค่อยากได้ที่พักพิง ฉันเหนื่อยมาหลายปีแล้ว"
"รากของต้นไม้แก่ๆ จะเป็นที่พักพิงของหนูได้.. มาสิ! นั่งลงข้างๆ ฉัน ...หลับให้สบาย....."
เด็กน้อยนั่งลงข้างๆ ต้นไม้ดีใจ ยิ้ม...และน้ำตาไหล...
พอครูเล่าจบ ครูให้นักเรียนแสดงความรู้สึกหลังจากการฟัง...
คุณครูขอบคุณนักเรียนทุกคน หลังจากที่นักเรียนคนนั้นแสดงความรู้สึกออกมา.
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)